อยู่ในระหว่างเตรียมการก่อสร้างสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์คำถามแรกและคำถามหลักที่เพื่อนๆ หลายคนเจอคือ “ฉันควรใช้หม้อแปลงไฟฟ้าขนาดเท่าไหร่ดี” คำถามนี้สำคัญมาก เพราะหม้อแปลงไฟฟ้าแบบกล่องเปรียบเสมือน “หัวใจ” ของแท่นชาร์จทั้งหมด โดยทำหน้าที่แปลงไฟฟ้าแรงสูงให้เป็นไฟฟ้าแรงต่ำที่พร้อมใช้งานกองชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและการเลือกใช้จะเกี่ยวข้องโดยตรงกับประสิทธิภาพการทำงาน ต้นทุนเริ่มต้น และความสามารถในการปรับขนาดในอนาคตของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
1. หลักการพื้นฐาน: การจับคู่พลังงานเป็นแกนหลัก
ขั้นตอนแรกในการเลือกหม้อแปลงไฟฟ้าคือการจับคู่กำลังไฟฟ้าให้แม่นยำ หลักการพื้นฐานนั้นง่ายมาก:
คำนวณผลรวมสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าพลังงาน: รวมพลังงานของสถานีชาร์จทั้งหมดที่คุณวางแผนจะติดตั้ง
การจับคู่ความจุหม้อแปลง: ความจุของหม้อแปลง (หน่วย: kVA) ควรมากกว่ากำลังไฟฟ้ารวมของหม้อแปลงเล็กน้อยสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า(หน่วย: กิโลวัตต์) เพื่อเว้นระยะขอบและพื้นที่บัฟเฟอร์ไว้ให้กับระบบ
2. กรณีศึกษาเชิงปฏิบัติ: วิธีการคำนวณที่สามารถเข้าใจได้ในทันที
ลองใช้สองกรณีทั่วไปในการคำนวณให้คุณ:
กรณีที่ 1: สร้างแท่นชาร์จเร็ว DC 120kW จำนวน 5 แท่น
การคำนวณกำลังไฟฟ้ารวม: 5 หน่วย × 120kW/หน่วย = 600kW
การเลือกหม้อแปลง: ในขณะนี้ การเลือกหม้อแปลงไฟฟ้าแบบกล่องขนาด 630kVA ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและเป็นที่นิยมมากที่สุด หม้อแปลงไฟฟ้าชนิดนี้สามารถรองรับโหลดรวม 600kW ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยยังมีระยะขอบที่เหมาะสมเพื่อให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์จะทำงานได้อย่างเสถียรและมีประสิทธิภาพ
กรณีที่ 2: สร้าง 10แท่นชาร์จเร็ว DC 120kW
การคำนวณกำลังไฟฟ้ารวม: 10 หน่วย × 120kW/หน่วย = 1200kW
การเลือกหม้อแปลง: สำหรับกำลังไฟฟ้ารวม 1200 กิโลวัตต์ หม้อแปลงกล่องขนาด 1250 กิโลโวลต์แอมแปร์ (kVA) เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ข้อกำหนดนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้กับระดับกำลังไฟฟ้านี้โดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจว่าแหล่งจ่ายไฟฟ้าจะเพียงพอและเชื่อถือได้
จากตัวอย่างข้างต้น คุณจะพบว่าการเลือกหม้อแปลงไม่ใช่แค่เพียงการจินตนาการเท่านั้น แต่ยังมีตรรกะทางคณิตศาสตร์ที่ชัดเจนให้ปฏิบัติตามอีกด้วย
3. การคิดขั้นสูง: สำรองพื้นที่สำหรับการพัฒนาในอนาคต
การวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่เริ่มต้นโครงการเป็นสัญญาณของความเฉียบแหลมทางธุรกิจ หากคุณมองเห็นความเป็นไปได้ของการขยายตัวในอนาคตสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าคุณควรพิจารณาให้ “พลัง” ที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเมื่อเลือก “หัวใจ” ในขั้นตอนแรก
กลยุทธ์ขั้นสูง: อัพเกรดความจุหม้อแปลงหนึ่งระดับตามที่งบประมาณมี
สำหรับกรณีที่มีเสาเข็ม 5 ต้น หากคุณไม่พอใจกับขนาด 630kVA คุณสามารถพิจารณาอัปเกรดเป็นหม้อแปลงขนาด 800kVA ได้
สำหรับเคส 10 กอง อาจพิจารณาใช้หม้อแปลงไฟฟ้าขนาด 1600kVA ที่ทรงพลังกว่าได้
ประโยชน์ของสิ่งนี้ชัดเจน: เมื่อคุณจำเป็นต้องเพิ่มจำนวนกองชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนหม้อแปลงซึ่งเป็นแกนหลักและอุปกรณ์ราคาแพง และจำเป็นต้องขยายสายที่ค่อนข้างง่ายเท่านั้น ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนและเวลาในการลงทุนรองได้อย่างมาก ทำให้สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อให้มีการเจริญเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
สรุปแล้วการเลือกหม้อแปลงให้เหมาะกับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นกระบวนการตัดสินใจที่สร้างสมดุลระหว่าง “ความต้องการในปัจจุบัน” กับ “การพัฒนาในอนาคต” การคำนวณกำลังการผลิตที่แม่นยำเป็นพื้นฐานสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับการดำเนินงานในปัจจุบัน ขณะที่การวางแผนล่วงหน้าในระดับปานกลางถือเป็นหลักประกันสำคัญสำหรับการเติบโตของผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) อย่างต่อเนื่อง
หากคุณกำลังวางแผนสถานีชาร์จหากมีคำถามเกี่ยวกับการเลือกหม้อแปลงไฟฟ้า โปรดติดต่อเราได้ตลอดเวลา เรายินดีนำประสบการณ์ทางเทคนิคระดับมืออาชีพมาให้คำปรึกษาด้านโซลูชันที่ปรับแต่งตามความต้องการของคุณฟรี เพื่อช่วยคุณสร้างสถานีชาร์จที่มีประสิทธิภาพและมีศักยภาพในการเติบโต!
ผู้ผลิตสถานีชาร์จ EV ที่กำหนดเอง CHINA BEIHAI POWER CO., LTD.
เวลาโพสต์: 5 พ.ย. 2568


